บทความ เรื่อง "ผู้สร้างตำนานอัฒจันทร์ฝั่ งตะวันตก" พระเจริญวิศวกรรม
อัครบุรุษของวงการฟุตบอลสยา มประเทศ ผู้ปฏิเสธตำแหน่งรัฐมนตรีขอ งคณะราษฎร์ ได้รับการยกย่องให้เป็น “บิดาแห่งคณะวิศวกรรมศาสตร์ ” ดำรงตนตามคติธรรม 3 ประการแบบตะวันตก คือ INTEGRITY ไม่ปากพูดอย่างใจพูดอย่าง DIGNITY ไม่หมอบกราบผู้ที่ไม่ควรกรา บ และ HUMILITY ไม่เอาเด่นเอาดังกับใคร แต่อุทิศกำลังกายและสติปัญญ าให้กับราชการงานแผ่นดิน โดยหาญกล้าสร้...างหลังคาสนามศุภชลาศัยกรีฑา สถานแห่งชาติ “ตักกศิลาลูกหนัง” มาตรฐานสากลแห่งแรกของกีฬาฟ ุตบอลไทย อันกลายเป็นตำนานจนถึงปัจจุ บัน
พระเจริญวิศวกรรม (เจริญ เชนะกุล) หรือ James Shea เกิดเมื่อวันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2436 ณ พระนคร เป็นบุตร Mr.John Edward Austin Shea (M.I.E.E.) นายช่างวิศวกรไฟฟ้าชาวอังกฤ ษเชื้อสายไอริช กับนางกี๋ ข้าหลวงในพระตำหนักของเจ้าน ายฝ่ายเหนือ เริ่มเข้ารับการศึกษาที่โรง เรียน The Christian High School หรือปัจจุบัน คือ “กรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย” (พ.ศ. 2445 - 2450) ระดับมัธยมต้นที่โรงเรียนรา ชวิทยาลัย (พ.ศ. 2450 - 2453) และมัธยมปลายที่โรงเรียนสวน กุหลาบวิทยาลัย (พ.ศ. 2453 - 2455)
ในระหว่างศึกษาที่โรงเรียนส วนกุหลาบวิทยาลัย พระเจริญวิศวกรรม ได้ลงเล่นฟุตบอลตำแหน่ง “กองหลัง” ให้ทีมสวนกุหลาบชนะเลิศกีฬา ฟุตบอลนักเรียนชิงโล่ของกระ ทรวงธรรมการ และเข้ารับพระราชทานเหรียญร างวัลจากพระบาทสมเด็จพระมงก ุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2454 นอกจากการเป็นนักกรีฑาประเภ ทลู่และลานของสถาบัน
ต่อมา พระเจริญวิศวกรรม ได้รับพระราชทานทุนเล่าเรีย นหลวงไปศึกษาต่อ ณ Eastbourne College (พ.ศ. 2455) ประเทศอังกฤษ วิชาวิศวกรรมโยธาที่ King”s College, Durham University (พ.ศ. 2457 - 2459) และวิชาวิศวกรรมโยธาสาขาชลป ระทานที่ University of California (Berkeley) ได้รับปริญญา B.S. in Civil Engineering
นอกจาก พระเจริญวิศวกรรม จะได้รับรางวัลเรียนดีจาก Eastbourne College แล้ว ยังคงเล่นกีฬารักบี้และฟุตบ อล จนได้รับคัดเลือกให้เข้าอยู ่ใน Stag Team หรือกลุ่มนักกีฬาดีเด่นของส ถาบัน มีสิทธิสวมเสื้อสามารถสีกรม ท่า บนกระเป๋าปักรูปหัวกวางด้วย ไหมสีขาว จนกระทั่งมารดาต้องมีจดหมาย ลงวันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2456 ด้วยความห่วงใย ว่า
“...จะเล่นอะไรอย่าเล่นให้เ หลือเกินนัก การเล่นมากไม่ดี เขาเล่นฟุตบอลกันที่วัดแจ้ง คนหนึ่งหกล้มตับแตกตาย เห็นไหมตายเสียเปล่า ๆ ไม่เห็นเป็นประโยชน์เลย แม่ได้สอนแล้ว...”
เมื่อเดินทางกลับสู่สยามประ เทศ พระเจริญวิศวกรรม ได้เข้ารับราชการทดแทนบุญคุ ณแผ่นดินแม่ ในตำแหน่งผู้ช่วยคณบดี คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (พ.ศ. 2462) จนสร้างคุณานัปการต่อวงการว ิศวกรรมของประเทศไทยในเวลาต ่อมา สำหรับด้านกีฬาฟุตบอลนั้น ได้เข้าร่วมเป็น 1 ใน 11 คนของสโมสรจุฬาลงกรณ์มหาวิท ยาลัยชุดชนะเลิศฟุตบอลชิงถ้ วยพระราชทานถ้วยใหญ่ (ถ้วย ก) ประจำปี พ.ศ. 2463 ก่อนจะรับตำแหน่งบรรยเวกษก์ (พ.ศ. 2468) มีหน้าที่ควบคุมคณะกรรมการส โมสร แต่ยังคงเกี่ยวข้องกับกีฬาฟ ุตบอลทั้งประเภทนักเรียนชิง โล่ของกระทรวงธรรมการและประ ชาชนชิงถ้วยพระราชทานของสมา คมฟุตบอลแห่งสยามฯ โดยเป็นผู้ตัดสินที่มีความเ ด็ดขาดและยุติธรรม
นายแพทย์เฉลิม บูรณะนนท์ กล่าวไว้ในบันทึกว่า
“...ทีมเก่ง ๆ ในสมัยนั้น มีทีมสโมสรรถไฟ ทีมสโมสรนักเรียนนายร้อยทหา รบก และทีมโรงเรียนนายเรือ มักจะเปนคู่แข่งในระดับเดีย วกัน กับสโมสรของเรา ทีมที่เราต้องรวังมาก คือ ทีมโรงเรียนนายเรือ ในปีสุดท้ายที่กระผมเล่นในท ีมจุฬาฯ กับทีมโรงเรียนนายเรือ เราชนะ 3 ประตู ต่อ 2 ทำให้คุณพระเจริญฯ ดีใจมาก ในค่ำวันนั้น ท่านได้พาลูกทีมไปเลี้ยงที่ ห้อยเทียนเหลา...”
ในขณะที่ พระเจริญวิศวกรรม ดำรงตำแหน่งคณบดีคณะวิศวกรร มศาสตร์ (พ.ศ. 2473) ที่บรรดาลูกศิษย์เคารพนับถื อและเรียกว่า “คุณพ่อ” เนื่องจากนิสิตคนใดสอบตกเพี ยงเล็กน้อย ก็จะช่วยพูดกับอาจารย์ที่สอ นและออกข้อสอบเพิ่มคะแนนให้ นิสิตคนนั้น จะได้รับการคัดเลือกจากสโมส รสมาชิกให้เป็นนายกสมาคมฟุต บอลแห่งประเทศสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ (พ.ศ. 2472 - 2474) โดยสร้างผลงานส่งนักฟุตบอลส ยามเดินทางไปแข่งขันนอกประเ ทศเป็นครั้งแรก ณ เมืองไซ่ง่อน
เมื่อวันที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2473 หน้าพระที่นั่งพระบาทสมเด็จ พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 และสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรร ณี ผลปรากฏว่า ทีมชาติสยาม ชนะ ทีมผสมญวน-ฝรั่งเศส 4 - 0 ได้ครองถ้วย มองสิเออร์ ปากีส แยร์ ผู้สำเร็จราชการแคว้นอินโดจ ีนฝรั่งเศส
ภายหลังเกิดเปลี่ยนแปลงการป กครอง (พ.ศ. 2475) จอมพล ป. พิบูลย์สงคราม นายกรัฐมนตรี ได้เสนอแต่งตั้ง พระเจริญวิศวกรรม ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการก ระทรวงศึกษาธิการ แต่ได้รับการปฏิเสธจนต้องระ งับการแต่งตั้งดังกล่าว โดยก่อนหน้านั้น พระเจริญวิศวกรรม ใช้นามสกุลเดียวกับพี่ชายร่ วมมารดา พระยาศราภัยพิพัฒ หนึ่งในกบฏบวรเดช คือ “ศราภัยวานิช” จนต้องเปลี่ยนมาเป็น “เชนะกุล” ตามเหตุการณ์และกาลสมัย
เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2480 ได้เริ่มการก่อสร้าง “สนามกีฬาสถาน” (Nationsl Stadium) หรือ “สนามศุภชลาศัยกรีฑาสถานแห่ งชาติ” ในปัจจุบัน ณ บริเวณกรมพลศึกษา ปทุมวัน ด้วยงบประมาณก่อสร้างจำนวน 170,000 บาท ตามที่ น.อ. หลวงศุภชลาศัย (บุ้ง ศุภชลาศัย) อธิบดีกรมพลศึกษา เสนอเรื่องต่อรัฐบาล สำหรับงานแบ่งออกเป็น 4 ช่วง คือ ระยะแรกสร้างอัฒจันทร์ด้านส กอร์บอร์ด ระยะที่สองจึงสร้างอัฒจันทร ์ฝั่งที่ประทับ ระยะที่สามสร้างอัฒจันทร์ตร งข้ามกับสกอร์บอร์ด และระยะสุดท้ายสร้างอัฒจันท ร์ฝั่งกระถางคบเพลิง จนแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2484 มีความจุผู้ชมประมาณ 40,000 คน นับเป็นสนามกีฬาระดับมาตรฐา นสากลแห่งแรกของประเทศไทย
โดย พระเจริญวิศวกรรม เป็นหนึ่งในวิศวกรที่มีส่วน ดำเนินการระยะที่สอง สำหรับการก่อสร้างอัฒจันทร์ ฝั่งตะวันตก หรือที่นิยมเรียกกันทั่วไปว ่า “ฝั่งที่ประทับ” คือ การสร้างหลังคาที่ไม่มีเสาค ้ำเป็นผลสำเร็จ อันกลายเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที ่กล่าวขานของวงการกีฬาและวิ ศวกรรมเมื่อ 70 ปีที่ผ่านมา
พระเจริญวิศวกรรม ผู้มีวิสัยไม่ค่อยพูดถึงผลง านของตนเอง แต่ปรากฏหลักฐานบทความในหนั งสือพระราชทานเพลิงศพ ว่า
“...ระหว่างกลุ่มวิศวกรและม ิตรสหายว่า มีการพนันขันต่อแบบทีเล่นที จริงว่า อาคารอัฒจันทร์หลังแรกในสนา มกีฬาแห่งชาติที่มีหลังคาคอ นกรีตยื่นออกไปโดยไม่มีเสาค ้ำหนุนเลยนั้น คุณพระเจริญวิศวกรรมเป็นผู้ ออกแบบและคิดคำนวณเทคนิคทั้ งหมดในการก่อสร้าง เขาพนันกันว่าหลังคาซิเมนต์ มหึมา (ตั้งมุมสูงกี่องศาไม่ทราบ) จะต้องพังทลายลงมาแน่นอนภาย ใน 2 - 3 หรือ 5 ปี เพราะไม่มีเสาแข็งแรงค้ำยัน ไว้ข้างหน้า แต่จนกระทั่งปัจจุบันทุกวัน นี้อาคารอัฒจันทร์ หรือ “อัศจรรย์” นั้น ก็ยังสถิตเสถียรดำรงอยู่ ส่วนคุณพระเจริญฯ ผู้ก่นคิดก่นสร้างได้อำลาจา กไปแล้ว...”
“...วันหนึ่งตอนบ่าย มีการแข่งขันกีฬาที่ปทุมวัน เสียงเชียร์ดังลอยตามลมมาถึ งบ้านได้ยินชัด คุณพ่อซึ่งนั่งรับประทานน้ำ ชาอยู่ ได้ปรารภขึ้นมาลอย ๆ ว่า เมื่อครั้งที่ออกแบบก่อสร้า งอัฒจันทร์นั้น ไม่ได้คิดว่าจะมีการส่งเสีย งเชียร์ดังกึกก้องถึงเพียงน ี้ จึงมิได้คำนวณแรงสั่นสะเทือ นของเสียงที่อาจมีต่อสิ่งก่ อสร้างเข้าไว้ด้วย แต่ถึงแม้ว่าอัฒจันทร์เกิดพ ังลงมาเดี๋ยวนี้ พ่อก็ไม่เสียชื่อ เพราะรับประกันไว้แค่ 25 ปีเท่านั้น...”
สุภาพบุรุษสามัญชน เสียชีวิตเมื่อกรกฎาคม พ.ศ. 2530 หากแต่ผลงานการวางรากฐานด้า นวิศวกรรมและกีฬาฟุตบอล ยังคงต้องจารึกนามคุณความดี พระเจริญวิศวกรรม (เจริญ เชนะกุล) นายกคณะฟุตบอลแห่งสยาม คนที่ 5 ให้สถิตสถาวรดังความมั่นคงข อง “หลังคาอัฒจันทร์ฝั่งตะวันต ก” เอกลักษณ์สนามศุภชลาศัยกรีฑ าสถานแห่งชาติ อันคงอยู่คู่กับวงการกีฬาฟุ ตบอลของประเทศไทย ตลอดมากว่า 7 ทศวรรษ.
จิรัฏฐ์ จันทะเสน
สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญ ัติ
อัครบุรุษของวงการฟุตบอลสยา
พระเจริญวิศวกรรม (เจริญ เชนะกุล) หรือ James Shea เกิดเมื่อวันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2436 ณ พระนคร เป็นบุตร Mr.John Edward Austin Shea (M.I.E.E.) นายช่างวิศวกรไฟฟ้าชาวอังกฤ
ในระหว่างศึกษาที่โรงเรียนส
ต่อมา พระเจริญวิศวกรรม ได้รับพระราชทานทุนเล่าเรีย
นอกจาก พระเจริญวิศวกรรม จะได้รับรางวัลเรียนดีจาก Eastbourne College แล้ว ยังคงเล่นกีฬารักบี้และฟุตบ
“...จะเล่นอะไรอย่าเล่นให้เ
เมื่อเดินทางกลับสู่สยามประ
นายแพทย์เฉลิม บูรณะนนท์ กล่าวไว้ในบันทึกว่า
“...ทีมเก่ง ๆ ในสมัยนั้น มีทีมสโมสรรถไฟ ทีมสโมสรนักเรียนนายร้อยทหา
ในขณะที่ พระเจริญวิศวกรรม ดำรงตำแหน่งคณบดีคณะวิศวกรร
เมื่อวันที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2473 หน้าพระที่นั่งพระบาทสมเด็จ
ภายหลังเกิดเปลี่ยนแปลงการป
เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2480 ได้เริ่มการก่อสร้าง “สนามกีฬาสถาน” (Nationsl Stadium) หรือ “สนามศุภชลาศัยกรีฑาสถานแห่
โดย พระเจริญวิศวกรรม เป็นหนึ่งในวิศวกรที่มีส่วน
พระเจริญวิศวกรรม ผู้มีวิสัยไม่ค่อยพูดถึงผลง
“...ระหว่างกลุ่มวิศวกรและม
“...วันหนึ่งตอนบ่าย มีการแข่งขันกีฬาที่ปทุมวัน
สุภาพบุรุษสามัญชน เสียชีวิตเมื่อกรกฎาคม พ.ศ. 2530 หากแต่ผลงานการวางรากฐานด้า
จิรัฏฐ์ จันทะเสน
สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญ